Wednesday, 29 March 2023

BTS ส่งซิก! ครึ่งปีหลังฟื้น ยอดผู้โดยสารบีที่ เอสพุ่ง 8 แสนเที่ยวคน/วัน

BTS เผยแนวโน้มธุรกิจ ช่วงเดือนตุลาคม 65-มี.ค.66 ดียิ่งขึ้นเพราะว่าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส

เพิ่มขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอถึง 800,000 เที่ยวคน/วัน ช่วงเวลาเดียวกันปี 66 จะมีการเปิดให้บริการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง นายสุรยุทธ ทวีกวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีที่เอส กรุ๊ป โฮถดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวมาว่า

แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในงวดครึ่งปีหลัง (เดือนตุลาคม 65-มี…66) ยังมองเห็นแนวโน้มที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ Move ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก เพราะว่า จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส เพิ่มขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ

BTS ธุรกิจ

และก็กลับมาแล้ว 90% ใกล้กับช่วงก่อนเกิดโควิด-19

ในระดับ 90% ซึ่งจะมองเห็นได้จากตั้งแต่ช่วงเทศกาลลอยกระทงเป็นต้นมา จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส เพิ่มมาเป็น 800,000 เที่ยวคน/วัน จากช่วง
ก่อนหน้าอยู่ที่เฉลี่ย 700,000 เที่ยวคน/วัน เทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่ระดับ 1 ล้านเที่ยวคน/วัน หลังจากผู้คนกลับมาเดินทาง

และก็ดำเนินการตามเดิมเยอะขึ้น
รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง

สำหรับสิ่งสำคัญที่บริษัทฯ เห็นว่าจะก่อให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส กลับไปที่ระดับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ได้นั้นจะต้อง คาดหวังให้นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมา ซึ่งนับว่าเป็นกหน็งสาเหตุที่มีนัยสำคัญ แยังไม่สามารถประเมินได้ว่านักท่องเที่ยวจากจีนจะกลับมา

ได้เมื่อใด เพราขึ้นอยู่กับทางการจีน ในช่วงเวลาที่ในส่วนของรายได้บีทีเอส ในปีนี้อจจะมีการลดน้อยลงบ้าง

เพราะว่าค่าแรงสำหรับเพื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและก็เหลืองที่เป็นตอนๆท้ายของการก่อสร้าง ทำให้รายได่ในส่วนนี้ลดน้อยลง

BTS ฟ้องกรุงเทพมหานครทวงค่าแรงเดินรถอีกครั้งหลังยอดพุ่ง 1.1 หมื่นลบ.แถมคอยคิวอีกคดี 2 หมื่นลบ.

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) กล่าวมาว่า บริษัทตระเตรียมยื่นฟ้องกรุงเทพฯ (กทม.) และก็บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด อีกครั้งเร็ว ๆ นี้

เพื่อเรียกร้องให้จ่ายค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ภายหลังที่บริษัทยังไม่ได้รับชำระจากกรุงเทพมหานคร ทำให้จำนวนเงินที่ค้างรวมดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากคราวก่อนที่ได้ยื่นฟ้องไปในค่ารวมราว 1.7 หมื่นล้านบาท

ด้านศูนย์ข่าว บีทีเอส เผยว่า

เมื่อวานวันที่ (22 พฤศจิกายน65) บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ที่กรุงเทพมหานครค้างตามสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว อีกทั้งส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า และก็ ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และก็ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และก็ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม64- 22 พฤศจิกายน65) ซึ่งเป็นการฟ้องเพิ่มเติมอีกจากคดีก่อนหน้าโดยส่วนต่อขยายที่ 1 มีวงเงิน 2,895 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) และก็ ส่วนต่อขยายที่ 2 มีวงเงิน 8,173.5 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) ทำให้มีวงเงินเพิ่มขึ้นอีก 11,068.5 ล้านบาท

นอกจากนั้น BTSC ตระเตรียมฟ้องกรุงเทพมหานครเพิ่มในส่วนงานติดตั้งระบบไฟฟ้า
และก็เครื่องกล วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง ด้วยเหตุว่า

มีงานเพิ่มเติมอีกเข้ามา แต่คาดว่าจะยื่นฟ้องได้ในเร็ว ๆ นี้ ส่วนคดีที่ศาลปกครองกลางให้กรุงเทพมหานครและก็ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ด้วยกันจ่ายค่าแรงเดินรถและก็ค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ส่วนต่อขยายที่ 1 และก็ส่วนต่อขยายที่ 2 รวมค่า 11,754 ล้านบาท(รวมดอกเบี้ย) โดยให้จ่ายภายในเวลา 180 วัน แต่ทางกรุงเทพมหานครได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว ก็จำต้องคอยศาลปกครองสูงสุดพิจารณาคดี

นายสุรยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ข้อความสำคัญข้อพิพาทกับทางกรุงเทพมหานครนั้น บริษัทเห็นว่าไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อการขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งใหม่ของบริษัท

เพราะว่าข้อความสำคัญดังที่กล่าวผ่านมาแล้วทางบริษัทได้ดำเนินงานต่าง ๆ อย่างถูกต้อง ไม่ได้ทำผิดข้อแม้และก็กฎเกณฑ์ที่กำหนด

และก็ยังมั่นใจว่านักลงทุนที่สนใจซื้อหุ้นกู้หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของ บีทีเอส ยังเชื่อถือในศักยภาพของบริษัทสำหรับเพื่อการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามแผนกลยุทธ์ของธุรกิจอีกทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ Move Mix และก็ Match

สำหรับในการเสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนที่จะบริษัทจะเสนอขายในคราวนี้ เป็นมิติใหม่สำหรับในการลงทุน ซึ่งทุกคนที่เข้าลงทุนจะมีส่วนร่วมสำหรับเพื่อการสร้างความยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับบริษัท ด้วยผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพึงพอใจ และก็ความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้ และก็มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

BTS แสนเที่ยว

หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของ BTS ที่ทำการเสนอขายในคราวนี้

แบ่งออกเป็น 4 รุ่น วงเงินเสนอขายรวม 1.3 หมื่นล้านบาท กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และก็จะเสนอขายระหว่างวันที่ 25 และก็ 28-29 พฤศจิกายน 65 ผ่าน ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารไทยพาณิชย์ และก็ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT)

หุ้นกู้ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วได้รับการจัดอันดับ

ความน่าไว้ใจที่ระดับ A จากทริสเรทติ้ง และก็กำหนดค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และก็ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

สำหรับในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในคราวนี้บริษัทจะมีการจัดสรรไปใช้เพื่อสำหรับในการเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท นำไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และก็การลงทุนต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความยั่งยืน อีกทั้งการปรับปรุงระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ดียิ่งขึ้น

รวมทั้งจะเอาไปใช้ในการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและก็สีชมพู ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 66 และก็นำไปลงทุนในโครงการที่ส่งเสริมความยั่งยืน และก็ดูแลสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ

“การออกหุ้นกู้ SLB ของบริษัทครั้งนี้สอดรับกับกลยุทธ์ระยะยาวด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ของ บีทีเอส โดยการคงสถานะความเป็นกลางทางคาร์บอน และกำหนดให้เพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) อย่างน้อย 10% ของการดำเนินงาน และบริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการจองซื้อหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่ยืนของ BTS ในครั้งนี้ เพราะตอนนี้จากการแสดงความสนใจเข้ามาถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และหากได้รับการตอบรับที่ดีมาก บริษัทอาจจะมีการออกหุ้นกู้ในรูปแบบนี้อีกในช่วงปี 66 รวมถึงการหาโซลูชั่นในการให้กลุ่มนักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงหุ้นกู้ส่งสริมความยั่งยืนของ BTS ผ่านการจองซื้อบนดิจิทัลด้วยเช่นกัน” นายสุรยุทธ กล่าว